วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หยุดเวลาไว้ ... ที่ "วังหลัง"

           

                 กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหล เมืองแห่งสีสันที่ก้าวข้ามยุคสมัยไปยังอนาคต ตึกรามบ้านช่อง รถรามากมายที่ผู้คนต้องฝ่าฟันกันยามเช้า ชีวิตเร่งรีบกับเวลาที่เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วนั้น คงก่อให้เกิดความคุ้นชินขึ้นในชีวิตคนเมืองกรุง เวลาช่างเป็นเงินเป็นทองไปเสียทุกวินาที แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีที่หนึ่ง ที่ซึ่งเสมือนหยุดเวลาที่เร่งรีบนี้ให้กับคนเมืองกรุงได้พักไปกับสถานที่นี้

                “วังหลัง” อาจเป็นได้ทั้งสถานที่ที่เวลาเคลื่อนผ่านไปช้าสุดหรือแม้กระทั่งเป็นสถานที่ที่หยุด ช่วงเวลาในอดีตไว้ ให้เหมือนเราหลุดเข้าไปในตลาดย้อนยุค ตึกรามบ้านช่องยังคงไว้เป็นตึกอาคารไม้ ถึงแม้จะมีการผสมผสานบ้านยุคใหม่บ้าง แต่มันยังคงกลิ่นอายความเก่าตามยุคสมัยไว้ไม่จางหาย...
                ตลาดวังหลังนั้นขายสินค้ามากมายหลายชนิด ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักเพียงไม่กี่อย่างที่มีคน
กล่าวถึงมากในโลกอินเทอร์เน็ต อรทัยซูชิ ซูชิขนาดน่ารักในราคาเป็นมิตร สถานที่ซึ่งรวมนักเรียนนักศึกษากลุ่มใหญ่ คนทำงานที่อยู่ในช่วงพักเบรก หรือ ครอบครัวที่มาทานด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา อีกหนึ่งสถานที่ที่หยุดเวลาแห่งความสุขไว้ ที่วังหลังนี้.... 
ป้ายอรทัย ซูชิวังหลังที่พบได้ทั่วบริเวณ

เอแคลร์ใส้แน่นในราคากล่องละ ๑๐ บาทที่ต้องห้ามพลาดในการมาตลาดวังหลัง เนื้อครีมเข้มข้นกับแป้งเนื้อนุ่มอาจทำให้คุณติดใจจนต้องกลับมาซื้ออีกครั้ง นี่อาจเป็นสิ่งที่คุณเห็นได้จากอินเทอร์เน็ต หากแต่คุณไม่ได้ลองมาสัมผัส 
แม่ค้าที่กำลังเรียกลูกค้าที่เดินผ่านไปมา

                 สองข้างทางแห่งการค้าขายคลาคล่ำไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า และผู้คนที่สัญจรไปมาในถนนเส้นนั้น ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูวุ่นวายในความคิด แต่เมื่อได้มาพบเจอและอยู่ในสถานที่จริง กลับทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดโดยทันที บรรยากาศเก่าๆที่ดูสงบเงียบ ดูเหมือนจะทำให้เราหยุดอยู่กับที่ไปกับช่วงเวลานั้น ฉันเองไม่อาจละสายตาจากความเรียบง่ายจากตลาดวังหลังได้เลย หากพบกับความวุ่นวายมากมายที่อยู่ถัดออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร
ผู้คนที่สัญจรไปมาในถนนเส้นนี้
 

คุณลุงขายรองเท้าแตะในราคา ๒๕ บาท

                การมาตลาดวังหลังนั้นไม่ได้เพียงแค่ของกินติดไม้ติดมือเป็นของฝากเท่านั้น ยังได้การพักผ่อนจิตใจจากความวุ่นวายด้วยบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา สายลมพัดแรงเสียจนลืมความร้อนรุ่มในจิตใจ บวกกับได้เห็นวิถีชีวิตริมน้ำที่พบได้ยากในกรุงเทพ เรือหางยาวหลายลำแล่นผ่านไปมาด้วยความเร็ว สวนกับเรือข้ามฟากลำใหญ่ที่บรรทุกผู้โดยสารข้ามฟากมาเต็มลำ น่าแปลกที่ทุกคนควรจะหงุดหงิดกับผู้คนมากมายที่ยืนรอต่อคิวขึ้นเรือข้ามฟาก แต่ทุกคนกลับดูสบายๆ เมื่อยามสายลมพัดผ่านมาในตอนยืนอยู่ที่โป๊ะเรือแห่งนี้ เส้นทางของทุกคนในที่นี้คงไม่แตกต่างกันมากนัก ตลาดวังหลังคงเป็นเหมือนเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่งที่เชื่อมต่อเวลาเหล่านั้นเข้าหาด้วยกัน..
วิถีชีวิตริมน้ำตามสองข้างทาง

เรือข้ามฟากเทียบท่ารับผู้โดยสารตลอดเวลา


              
          เสน่ห์ของตลาดวังหลังนั้นมีอีกมากมายที่รอให้คนไปพบ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความย้อนยุค
ที่คงอยู่ในตลาดวังหลังนั้น ดึงดูดผู้คนทุกเพศทุกวัยไว้ให้กลับไปยังสถานที่นั้นเรื่อยไป อาจเพราะ
ติดใจรสชาติอาหารที่แสนอร่อย ติดใจความสวยงามของชุมชนวังหลังที่ติดความสโลว์ไลฟ์ หรืออาจจะติดใจช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายเมื่อได้มาเหยียบที่ “ตลาดวังหลัง” ก็เป็นเป็นได้  


วรัญญา ฉลาดละออ 057



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น